นายสมพงษ์ จิตระดับ

นักวิชาการชี้ ปี 2565 เป็นปีที่การศึกษาไทยบอบช้ำหนักที่สุด

นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า ปี 2565 เป็นปีที่การศึกษาไทยบอบช้ำหนักที่สุด เด็กทั่วประเทศเกิดภาวะถดถอยทางการศึกษาไป 1 ปีครึ่ง เด็กหลุดจากระบบการศึกษาเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ปี 2565 เป็นปีสูญเสียครั้งใหญ่ของประเทศ ซึ่งอันตรายและน่าห่วงอนาคตของเด็กเป็นอย่างมาก แต่ผู้ใหญ่กลับไม่ใส่ใจและไม่แก้ไข ถือเป็นความบกพร่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

นอกจากความบอบช้ำทางการศึกษาแล้ว ปัญหาสุขภาพจิตของเด็ก เป็นอีกเรื่องที่น่าห่วง เด็กเป็นโรคซึมเศร้าเพิ่มขึ้นจากการเรียนออนไลน์ มี Self-Esteem หรือมองเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ ก้าวร้าว อัตราส่วนการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น เห็นได้จากข่าวที่เด็กระดับชั้นมัธยมฆ่าตัวตายจำนวนมาก

นายสมพงษ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ปี 2565 ยังถือเป็นปีแห่งการท้าทายระบบอำนาจนิยม โดยจะเห็นว่าเด็กและครูรุ่นใหม่ที่ต้องทำตามระบบนี้ เรื่องมีความขัดแย้ง ประชาชนตั้งคำถามกับระบบการศึกษาไทยเพิ่มมากขึ้น

เห็นได้จากการที่เด็กออกมาเคลื่อนไหวเรื่องเครื่องแบบนักเรียน ทรงผม ส่วนครูรุ่นใหม่ ก็ลาออกไปทำอาชีพอื่นจำนวนมาก เพราะทนกับโครงสร้าง การประเมินที่มีอยู่ไม่ไหว การที่นักเรียนและครูรุ่นใหม่ออกมาเคลื่อนไหว เป็นเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ต้องกลับมาตั้งคำถามแล้วว่า ทำไมเด็กและครูจึงไม่เห็นด้วยกับระเบียบ กฎเกณฑ์ การประเมินต่างๆ ที่มีอยู่

นักวิชาการชี้ ปี 2565 เป็นปีที่การศึกษาไทยบอบช้ำหนักที่สุด

“ปี 2565 เราเห็นแต่ความขัดแย้ง เห็นความทะมึน เห็นการใช้อำนาจ มีแต่ความล้าหลัง ส่วนการเมืองก็เข้าสู่ช่วยปลายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 8 ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าการศึกษาไทยสอบตก รัฐมนตรีว่าการ ศธ.แต่ละคนที่เข้ามา ก็ไม่ค่อยมีผลงาน รัฐบาลใช้การเมืองนำการศึกษา แต่ก็มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในระบบการศึกษาอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินครู, การปรับแก้หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัด ศธ. ที่กำหนดให้ย้ายภายใน 2 ปี ไม่ต้องรอ 4 ปี เหมือนที่ผ่านมา, การคืนอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายให้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา, ปรับเพิ่มเงินอุดหนุนอาหารกลางวัน และเงินอุดหนุนรายหัว และการผลักดัน พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นต้น” นายสมพงษ์กล่าว

นายสมพงษ์กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ปี 2565 ยังเห็นการจัดอีเวนต์เชิงนโยบายจำนวนมาก ซึ่งแม้จะดูดี แต่ในความเป็นจริงการจัดอีเวนต์ เป็นเรื่องวูบวาบ สิ้นเปลือง ไม่เกิดประโยชน์ หากเป็นไปได้ก็อยากให้ลดลง นำเงินไปพัฒนาและแก้ไขปัญหาการศึกษาดีกว่า

ซึ่งในปี 2566 การศึกษาไทยน่าจะมีโอกาสที่ดีขึ้น หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียนรู้และเข้าใจปัญหา อยากจะเห็นรัฐบาลชุดใหม่ หานักการเมืองรุ่นใหม่ที่สนใจ และเข้าใจการศึกษาอย่างจริงจัง เข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ. เชื่อว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในมิติใหม่ๆ ที่ดีกว่าเดิม

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ boulderhomevet.com

แทงบอล

Releated