Social Detox

Social Detox ให้เวลากับตัวเองและคนที่เรารัก

Social Detox คืออะไร

เชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยินประโยคนี้อยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะในยุคที่โซเชียลเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น ทั้งคอยอำนวยความสะดวกให้คนที่อยู่ไกลได้ใกล้กันมากขึ้น การทำธุรกรรมต่างๆได้รวดเร็วทันใจ จนเราเองอาจเผลอใจเสพติด Social Media เหล่านั้นจนถอนไม่ตัวขึ้น

จากงานทางการแพทย์และงานวิจัยจากทั่วทุกมุมโลก ต่างชี้ตรงกันว่าการที่เราให้เวลากับโซเชียลมีเดียมากเกินไปนั้น เป็นอันตรายต่อสุขภาพจิต เพราะโลกเสมือนจริงในจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ เป็นมุมมองที่สวยงามเกินความจริง จึงแนะนำว่าเราควรมีช่วงที่หยุดพักบ้าง

ซึ่งหลักการง่ายๆ ของการทำ Social Detox คือการเล่นอย่างมีสติและอยู่ในเวลาที่กำหนด บางคนเริ่มตั้งแต่ 7 วัน 15 วัน หรือบางคนทำเป็นปีเลยก็มี แต่ถ้าใครรู้สึกว่าเป็นตัวเลขที่สูงเกินไป จะลองเริ่มต้นลดชั่วโมงในแต่ละวันดูก่อนได้ เพราะแค่เริ่มต้นก็เท่ากับเอาชนะใจตัวเองได้ระดับหนึ่งแล้ว

เข้าใจว่าก้าวแรกคือสิ่งที่ยากสุดสำหรับการเริ่มต้น ยิ่งเป็นโทรศัพท์ที่หยิบจับง่ายแล้วล่ะก็ เป็นอะไรที่ห้ามใจยากอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยสภาวะจิตใจของหลายๆ คนแล้ว แนะนำให้เริ่มต้นไปพร้อมกับเราเลย หากปล่อยไว้นาน ความหดหู่จะอยู่สะสมไปมากกว่านี้ ซึ่ง วิธีที่เราเลือกมานั้น เราลองทำบางข้อแล้วพบว่าไหวอยู่ (ที่แปลว่าไหวจริงๆ) ไม่หักดิบจนทำให้อึดอัดใจเกินไป

1. ชวนเพื่อนทำโซเชียลดีท็อกซ์ไปด้วยกัน
เริ่มต้นด้วยการหาบัดดี้หรือเพื่อนสนิทของคุณสักคน ที่พร้อมจะวางมือลดละเลิกการเล่นโซเชียลมีเดียไปพร้อมๆ กัน อาจจะช่วยวางตารางที่พอจะเป็นไปได้ บอกปัญหาหรือข้อจำกัดของแต่ละคน หรือสาเหตุที่ทำให้เราสนใจเรื่องดราม่าในสังคมออนไลน์

แนะนำให้สร้างข้อตกลงร่วมกัน เพราะขั้นตอนนี้จะนำไปสู่การแข่งขันและความเป็นไปได้ที่มากขึ้น อย่าลืมว่าธรรมชาติของมนุษย์ส่วนใหญ่ รักการเป็นที่หนึ่งและคาดหวังกับสิ่งตอบแทน อาจจะทำกฏขึ้นมาว่า ทุกครั้งที่เราใช้เวลาร่วมกับเพื่อนหรือคนอื่นๆ ห้ามจับมือถือจนกว่าจะแยกย้ายกัน ยกเว้นถ่ายรูป เป็นต้น

Social Detox

2. หาให้เจอว่าแอปไหนที่เราใช้บ่อยสุด
เพื่อให้การวางแผนประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น เราต้องหาต้นตอของปัญหาให้แน่ชัด เริ่มต้นจากการสำรวจพฤติกรรมของตัวเอง สังเกตว่าเราเองใช้เวลาหรือเอ็นจอยกับแอปไหนมากที่สุด ใครที่ใช้มือถือระบบปฏิบัติการ iOS สามารถเข้าไปเช็ก Screen Time ได้อยู่แล้ว ส่วนใครที่ใช้แอนดรอยด์อย่าเพิ่งน้อยใจ สามารถเช็กได้เหมือนกัน

ซึ่งตัวเลขเหล่านั้นจะช่วยทำให้เราแก้ปัญหาได้ตรงจุด ลองดูว่าแอปไหนที่เราใช้งานมากที่สุด แล้วค่อยๆ วางแผน “ลด” เวลาดู ลองเริ่มที่ลดก่อนแล้วถ้าไปถึงขั้น “งด” ได้จะเยี่ยมมากเลยทีเดียว ครั้นจะให้เริ่มต้นแบบหักดิบก็ดูใจร้ายไปหน่อย แค่เล่นน้อยกว่าที่เคย ก็เป็นสัญญาณที่ดีแล้ว

3. ใช้เวลาพูดคุยกับเพื่อนและครอบครัวให้มากขึ้น
“มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” มาแต่ไหนแต่ไร สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Social Media ได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดด เพราะด้วยความเข้มแข็งของเรื่องราวในนั้น ต้องยอมรับว่าเรามักสนอกสนใจเรื่องของคนอื่น ยิ่งถ้า story เหล่านั้นเต็มไปด้วยกระแสดราม่า

กลับกันถ้าเราลองเปลี่ยน Mindset ใส่ใจเฉพาะเรื่องของคนที่โคจรอยู่รอบตัวเราให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือคนที่เรารักและคนที่รักเรา เพราะท้ายที่สุดแล้วกลุ่มคนเหล่านี้ น่าจะทำให้เราอบอุ่นใจและอยู่เคียงข้างเรา ได้มากกว่าคนในสังคมออนไลน์ ดังนั้นอย่าละเลยจิตใจคนใกล้ตัว

4. ตั้งเวลาจำกัดการใช้งานในแต่ละแอป
การทำ Social Detox ไม่ได้หมายถึงการเลิกเล่นโซเชียลแบบถาวร หรือให้แต่ละคนปิดแอคเคาต์ไปเลยแบบหักดิบ การทำแบบนั้นเป็นอะไรที่ทำได้จริงยากมาก

ลองเริ่มต้นด้วยการ “ลด” หรือกำหนดเวลาการเล่นโซเชียลให้น้อยลง สังเกตดูจากในมือถือเราก็ได้ ว่าในแต่ละวันเราใช้เวลาท่องข้อมูลข่าวสารไปกี่ชั่วโมง ค่อยๆ ปรับพฤติกรรมไป น่าจะช่วยให้เราทำใจและมีกำลังใจที่จะทำได้ดีขึ้น

5. ใช้นาฬิกาปลุกให้มากกว่าโทรศัพท์ปลุก
พฤติกรรมเล็กๆ ที่ไม่อยากให้หลายคนมองข้าม เคยสังเกตตัวเองกันไหม ว่าแทบทุกครั้งที่เสียงนาฬิกาปลุกหยุดไป สิ่งที่ทำถัดมา ไม่ใช่การขยับร่างกายลุกไปอาบน้ำ หรือทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ อย่างที่ตั้งใจ

แต่เรามักจะเริ่มต้นวันใหม่ ด้วยการนอนไถจอมือถือไปเรื่อยๆ เข้าแอปนั้นออกแอปนี้ วนซ้ำไปซ้ำมาอย่างนั้น จนเสียเวลาไปเป็นชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้นาฬิกาปลุกจริงๆ เลยจะดีกว่า เพื่อไม่ให้เราเผลอใจไปกับโซเชียล เพราะการที่โทรศัพท์อยู่ในมือทีไร มันก็อดใจยากจริงๆ

เชื่อว่าทุกการเริ่มต้นและการเปลี่ยนแปลง เป็นอะไรที่ยากเสมอ สำคัญที่ใจของเราว่าจะพร้อมรับกับมันแค่ไหน ช่วงแรกของการทำ Social Detox อาจจะยากสักหน่อย แต่วิธีที่เราได้แนะนำไปนั้น เชื่อว่าทุกคนเริ่มได้ อาจจะไม่ถึงขั้นเลิก แต่ลองลดและใช้เวลากับมันให้น้อยลง พยายามให้เวลากับตัวเองและคนที่เรารักให้เยอะขึ้น เพื่อสุขภาพจิตที่เบิกบานขึ้นของตัวเราเอง

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ boulderhomevet.com

Releated